เปิดวิธีทวงเงินยังไงให้ได้เงินคืน หมดปัญหาการทวงเงินลูกหนี้และให้ยืมเงิน

รูปแบบการทวงเงิน ขั้นตอนและวิธีสำหรับคนที่ลังเลว่าแบบไหนดี

เป็นเรื่องปกติธรรมดาบนโลกใบนี้ที่เมื่อมีการให้ยืมเงินก็ย่อมต้องมีการทวงเงิน เพราะมนุษย์แต่ละคนประสบปัญหาชีวิตรวมถึงเจอเรื่องเดือดร้อนที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ให้ยืมเงินไปแล้วชีวิตมีความสุขก็ไม่ต้องทวงเงินลูกหนี้ แต่วันไหนที่เกิดเงินขาดมือต้องการใช้บ้างจะให้เห็นใจลูกหนี้ก็เป็นเรื่องยากอยู่ การทวงเงินเลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลูกหนี้บางคนที่มีนิสัยดี มักจะจ่ายเงินคืนแก่เจ้าหนี้ก่อนที่จะถูกทวงเงิน แต่บางคนก็อาจจะตีมึนทำเป็นไม่สนใจยิ่งไม่ถามก็ยิ่งไม่คิดจะคืน แต่แม้การทวงเงินจะเป็นสิ่งที่เราทำได้โดยชอบธรรม แต่ก็ต้องมีระดับขั้นของการทวงเพื่อผลทางจิตวิทยาที่จะเกิดต่อผู้ยืมเงินเราไป เริ่มแรกเราอาจจะทวงเงินแบบสุภาพ กล่าวคือไม่ว่าจะโทรถามหรือใช้การแชทถามในโปรแกรมสื่อสารออนไลน์ น้ำเสียงในการทวงหนี้ก็จะเป็นไปอย่างนุ่มนวลเพราะความเห็นแก่มิตรภาพ แถมด้วยท่าทีเกรงใจลูกหนี้เล็กๆ เพื่อหวังว่าจะมีความเห็นใจและจะได้ไม่เกิดความบาดหมางกันเมื่อทวงเงินไปเรื่อยๆ ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะได้ผลก็ต่อเมื่อคนที่เราทวงเงินมีความเกรงใจเพื่อนมนุษย์ในระดับหนึ่ง แต่หากเป็นคนที่ไม่ได้ใส่ใจในความรู้สึกของใครแล้ว วิธีทวงเงินเช่นนี้อาจจะไม่ได้ผลเท่าไหร่นัก อาจจะต้องเพิ่มระดับการของการทวงหนี้ให้แข็งกร่าวมากขึ้น เพื่อให้ลูกหนี้เห็นว่าหากยืมเงินแล้วไม่คืน ความโกรธก็สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ให้ยืมเงินหรือเจ้าหนี้โดยเฉพาะปี 2567 หรือ 2024 นี้

 

วิธีทวงเงินลูกหนี้ทั้งที่เป็นเพื่อนหรือไม่ใช่เพื่อน เพื่อให้การทวงเงินสำเร็จ

 

หลังจากที่เราทวงเงินแบบผู้ดีหรือแบบสุภาพไม่ได้ผล ไม่ว่าจะด้วยเหตุประการใดก็แล้วแต่ ขั้นตอนลำดับต่อมาก็คือการแสดงท่าทีที่ดุดันขึ้น แม้กระทั่งเป็นการทวงเงินที่เพื่อนยืมเงินไม่คืนก็ตาม แต่ความเกรงใจและเห็นแก่มิตรภาพก็ควรที่จะมีแบบจำกัด โดยวิธีทวงเงินลูกหนี้แบบนี้ก็คือการใช้คำพูดที่ดูสะท้อนความไม่พอใจของเรา เช่น “เราเองก็เดือดร้อนเหมือนกันไม่มีเงินจะใช้แล้วทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง” หรือ “ไม่อยากทวงเงินหรอกนะแต่มันจำเป็นมาก ตอนยืมนี่ไม่เห็นทำตัวยุ่งยากแบบนี้เลยคุยกันง่าย ที่ให้ยืมเงินก็เพราะคิดว่าจะมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้” หรือไม่ก็ใช้สรรพนามในการทวงเงินที่ก้าวร้าวขึ้น เช่น จากฉันก็เปลี่ยนเป็นแก หรืออาจจะขึ้นคำหยาบคายก็ได้หากคิดว่าจำเป็น ส่วนอีกหนทางในการทวงเงินที่น่าจะได้ผลและเราไม่ต้องลงไม้ลงมือด้วยตัวเอง แต่อาจจะต้องยอมแบ่งเงินที่ได้คืนจากลูกหนี้ไปใช้เพื่อการนี้ก็คือการให้พวกรับทวงหนี้ทำการทวงถามแทนเรา แต่จะต้องสื่อสารกับคนที่รับจ้างติดตามหนี้สินให้ดีว่าจะต้องไม่มีการละเมิดกฎหมายทวงหนี้ใดๆ หลักๆ คือการไม่ใช่กำลังทำร้ายหรือคุกคามข่มขู่จะทำร้ายหรือทำลายทรัพย์สินของลูกหนี้ เพราะไม่อยากนั้นแล้วแทนที่จะได้ทรัพย์สินจากการทวงเงินก็อาจจะต้องไปรับโทษในคุกแทน ดังนั้นก่อนจะทำการทวงหนี้ควรตัดสินใจให้รอบคอบและคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก

 

กฎหมายทวงหนี้สำหรับผู้สนใจว่าแจ้งความได้ไหมเมื่อทวงเงินไม่ได้

บางคนก็อาจจะสงสัยว่าจะแจ้งความได้ไหมหากลูกหนี้ไม่จ่ายหนี้ เท่าที่ทราบหากมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับลูกหนี้ได้ โดยทั่วไปที่ทำสัญญาและใช้ทวงเงินได้ตามกฎหมาย ยอดหนี้จะอยู่ที่เกินกว่า 2,000 บาทขึ้นไปก็สามารถใช้ตามหลักกฎหมายได้ แต่สัญญาจะต้องเก็บไว้อย่างดีเผื่อว่ามีการทวงเงินเกิดขึ้นท่านจะได้หยิบเอาสัญญาดังกล่าวมาใช้ได้ และสุดท้ายนี้สำหรับผู้กำลังคิดอยู่ว่าการติดตามหนี้สินแบบไหนดีที่ควรใช้ในการดำเนินการกับสถานการณ์ที่ท่านเผชิญอยู่ ท่านต้องไม่ลืมว่าการทวงเงินสิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องได้เงินกลับมา หากใช้ความรุนแรงทางวาจาหรือกำลังมากไป การทวงเงินก็อาจจะไม่เห็นผลสำเร็จเอาได้ง่ายๆ

Scroll to Top